Subscribe

RSS Feed (xml)

Powered By

Powered by Blogger

ดื่มน้ำชาช่วยป้องกันมะเร็งรังไข่


น้ำชา ถือว่าเป็นเครื่องดื่มยอดฮิตของสาวๆ ไปแล้วใช่ไหม๊ล่ะคะตอนนี้ แต่ส่วนใหญ่จะทราบเพียงแค่ว่าการดื่มชาเขียวจะทำให้แก่ช้าลง จะทำให้สวยขึ้น จากที่เราจะรู้กันว่าชาเขียวจะมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ เพื่อชะลอการแก่ก่อนวัย แต่จริงๆ แล้วชายังมีประโยชน์อีกมากมายสำหรับผู้หญิงอย่างเรา

อย่างที่มีบอก ไว้ว่าสตรีควรจะดื่มชาไม่ว่าจะเป็นชาเขียวหรือว่าชาดำเป็นประจำทุกวัน วันละ 1–2 ถ้วย ซึ่งจะมีส่วนช่วยลดอัตราเสี่ยงการเป็นมะเร็งของรังไข่ลงได้ ประมาณ 50 % หรือว่ามากกว่านั้น

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งวอชิงตัน ของสหรัฐอเมริกา สังเกตพบจากการศึกษากับผู้หญิงทั้งหมด 2,000 คน ว่าสามารถห่างไกลจากโรคมะเร็งรังไข่ได้ตั้งร้อยละ 54 เพียงแค่ดื่มชาเขียวประจำวันละ 1-2 ถ้วย

ในขณะที่สถาบันการแพทย์สิ่ง แวดล้อมแห่งชาติ ที่กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ก็ได้ทำการศึกษาแล้วพบว่า สตรีที่ดื่มชาดำอย่างต่ำวันละ 2 ถ้วย จะช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งรังไข่ ลงไปได้เกือบร้อยละ 50

ผล จากการศึกษาของทั้งสองสถาบันนี้ ได้ยืนยันสรรพคุณของชาเขียวและชาดำในการป้องกันโรคมะเร็ง นอกเหนือจากที่เคยที่เคยทำการวิจัยแล้วพบว่า ช่วยบำรุงหัวใจ สมองและลดปริมาณไขมันเลวในเลือดลงได้

สำหรับสาวๆ ที่ไม่ชอบดื่มน้ำชา หลังจากได้อ่านบทความนี้แล้วคงต้องเปลี่ยนใจหันกลับมาดื่มชากันแล้วใช่ไหมล่ะคะ

เลือกกินช็อกโกแลตยังไง...ถึงจะไม่เสียใจทีหลัง


สำหรับสาวๆ ทั้งหลายที่ชื่นชอบการกินช็อกโกแลต แต่พอกินเสร็จแล้วจะรู้สึกผิดทุกครั้งเลย กังวลว่าตัวเองจะอ้วนขึ้นอีกเท่าไหร่กับการกินช็อกโกแลตแต่ละครั้ง ต่อไปนี้ไม่ต้องเป็นกังวลอีกแล้ว เพราะวันนี้เรามีทิปเกี่ยวกับการกินช็อกโกแลตมาฝาก

มีการวิจัยเกี่ยวกับช็อกโกแลต ได้ทำการทดสอบกับอาสาสมัครที่มีสุขภาพแข็งแรงดีทั้งหมด 15 คน โดยเป็นผู้ชาย 7 คน ผู้หญิง 8 คน และแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก กิน dark chocolate วันละ 100 กรัม กลุ่มที่สองกิน white chocolate 90 กรัม ทุกวันโดยทดลองกินเป็นเวลา 15 วัน

ผลที่ได้คือกลุ่มที่กิน dark chocolate ทุกคนมีความดันโลหิตลดลง และมีความไวต่ออินซูลินซึ่งเป็นตัวสำคัญในการเผาผลาญน้ำตาลมากขึ้น ส่วนกลุ่มที่กิน white chocolate ความดันโลหิตไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

เหตุที่มีผลออกมาอย่างนี้ก็เนื่องจากว่า dark chocolate มีระดับฟลาโวนอยด์ ซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระมาก ซึ่งเป็นสารเสริมสร้างสุขภาพของหัวใจ ช่วยให้ระบบเลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น และยังช่วยลดอาการอุดตันของหลอดเลือดอีกด้วย ส่วน white chocolate ถูกตั้งข้อสันนิษฐานว่า นมอาจเป็นตัวที่ไปขัดขวางการดูดซับฟลาโวนอยด์ สรุปจากผลการวิจัยแล้วว่าคนเราควรกิน dark chocolate ในปริมาณเทียบเคียงกับระดับแคลอรี่ที่เราทานในแต่ละวัน โดยที่ dark chocolate 100 กรัมให้พลังงาน 500 แคลอรี่

เห็นไหมล่ะคะว่าการกินช็อกโกแลตไม่ได้ทำให้เราอ้วนขึ้นได้ถ้าเรารู้จักที่จะเลือกกิน มันขึ้นอยู่ที่ว่าเราควรจะทานช็อกโกแลตแบบไหนและในปริมาณเท่าไหร่จึงจะไม่มีผลเสียต่อสุขภาพเรา

แค่ทาลิปติกสีแดงก็ดูดีมีเสน่ห์


สำหรับสาวๆ ที่อยากดูดีมีเสนห์ ต้องกล้าที่จะลุกขึ้นมาแต่งแต้มริมฝีปากตัวเองให้อิ่มสวยด้วยสีแดงสดใส

ไม่ว่าจะยุคไหนสมัยไหนริมฝีปากสีสดใส ไม่เคยหายไปจากแฟชั่น โดยเฉพาะสีสด ๆ อย่างเช่น สีแดง ก็เป็นสีที่ผู้หญิงทุกคนควรจะทาสักครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะมันเป็นสีที่จะทำให้คุณดูโดดเด่นอย่างไม่มีสีไหนมาเทียบได้

อย่ากลัวว่ามันจะดูแรงเกินไป เคล็ดลับง่ายๆ อยู่ที่การเลือกสีแดงที่เหมาะกับสีผิวของคุณ ถ้าเป็นคนผิวคล้ำ หรือมีอันเดอร์โทนสีเหลือง ให้เลือกสีแดงเจือส้มหรือน้ำตาล ถ้าผิวมีอันเดอร์โทนสีชมพูก็เลือกสีแดงที่เจือสีชมพู

และยังมีอีกเทคนิคการทาลิปติกสีแดงอย่างหนึ่งก็คือ ให้ใช้นิ้วมือทาลิปสติกสีแดง เพราะมันจะทำให้สีแดงดูเบาลง และเป็นธรรมชาติมากขึ้นนะคะ แค่เทคนิคง่ายๆ แค่นี้ก็ทำให้คุณกลายเป็นเป็นคนสวยใสมีเสน่ห์แล้วล่ะค่ะ

วิธีรับมือกับหน้าฝน


ช่างน่าเบื่อจริงๆ กับสายฝนที่ตกมาตลอดเวลา จะออกนอกบ้านทีไรเป็นต้องพกร่มอยู่ตลอดเวลา ก็ยังไม่วายจะเปียกชื้น ชวนให้เป็นไข้หวัดอยู่บ่อยๆ และที่สำคัญก็คือเชื้อรา ถือว่าเป็นมหันตภัยร้ายเลยทีเดียวในช่วงหน้าฝนแบบนี้ ถ้าไม่อยากให้เชื้อราซึ่งเป็นบ่อเกิดแห่งโรคร้ายเข้ามากล้ำกรายละก็ ต้องปฎิบัติตัวขณะออกไปนอกบ้านในตอนที่ฝนตกพรำๆ ด้วยวิธีดังต่อไปนี้


1. หลีกเลี่ยงการเดินลุยในน้ำขัง เวลาเดินออกไปข้างนอกต้องหลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำที่ขังตามถนนหนทาง เพราะเราไม่ทราบว่าในน้ำมีของมีคนอยู่หรือเปล่า ดีไม่ดีเราอาจจะเดินไปเตะโดนกับของมีคมเข้า จะทำให้เท้าเรามีแผลและเชื้อราอาจจะเข้าสู่ร่างกายเราได้ง่ายๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่มีแผลที่เท้าอยู่แล้วควรหลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำอย่างเด็ดขาด


2. รีบทำความสะอาดทันที เมื่อผ่านการลุยน้ำมาสิ่งแรกที่ควรจะทำก่อนที่จะเกิดอาการน้ำกัดเท้าได้ก็คือ รีบล้างเท้าทำความสะอาดก่อนทันที โดยฟอกสบู่ให้ทั่วบริเวณที่โดนน้ำ โดยเฉพาะซอกเล็บ ซอกนิ้วเท้า ควรทำความสะอาดแล้วเช็ดให้แห้ง และหาโลชั่นบำรุงมาทาไว้ ยกเว้นบริเวณซอกนิ้วแค่เช็ดให้แห้งก็พอไม่ต้องทาโลชั่นเพราะอาจจะทำให้ชื้นมากขึ้น

3. ควรอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เมื่อกลับถึงบ้านแล้วต้องรีบอาบน้ำ ชำระร่างกายเพื่อไม่ให้เกิดการหมักหมมของเชื้อโรคต่าง ๆ ที่มากับน้ำ

4. ควรสระผมให้สะอาด นอกจากเราจะอาบน้ำให้ร่างกายเราสะอาดแล้ว ผมก็เป็นที่หมักหมมของเชื้อโรคได้เหมือนกันถ้าหากเกิดการเปียกชื้นแล้วไม่ได้รับการทำความสะอาด ฉะนั้นเราควรสระผมให้สะอาดด้วย และควรเป่าผมให้แห้ง ถ้าขืนเรานอนหลับขณะที่ผมยังเปียกชื้นอยู่รับรองว่าเราได้เป็นเชื้อราบนหนังศีรษะแน่นอน

5. หากเราไม่สามารถที่จะอาบน้ำทันทีได้ในขณะนั้น แต่ควรที่จะรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดเก่าออก เช็ดตัวและผมให้แห้งแล้วเปลี่ยนชุดใหม่ทันทีเลย

6. รีบซักเสื้อผ้าที่เปียกชื้นทันที เสื้อผ้าที่เปียกชื้นจากน้ำฝนควรรีบทำการซักทันที ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้เพราะจะหมักหมมก่อให้เกิดเชื้อราบนเสื้อผ้าได้ ถ้าไม่สะดวกที่จะซักในทันทีก็ให้ใส่ไม้แขวนแล้วแขวนผึ่งในที่ที่มีอากาศถ่ายเท

7. เตรียมพร้อมอยู่เสมอ เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนแล้วถึงแม้ว่าวันนี้ฝนจะตกหรือไม่ตกก็ตาม ก่อนออกจากบ้านควรพกร่มหรือว่าเสื้อกันฝนอยู่เสมอ และดูแลตัวเองให้อับชื้นน้อยที่สุด ที่สำคัญถ้าสามารถเตรียมเสื้อผ้าชุดใหม่ติดไว้ที่โต๊ะทำงานซักชุดนึงก็ไม่เลวเหมือนกัน